อังคารที่ 31 มีนาคม 2563 เวลา 11.44 น. เดลินิวส์

รัฐบาลฟิลิปปินส์มีแผนเพิ่มการนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศในช่วงวิกฤติโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ว่านายคาร์โล โนกราเลส เลขาธิการคณะรัฐมนตรีฟิลิปปินส์ แถลงเมื่อวันจันทร์ ว่าคณะทำงานพิเศษระหว่างกระทรวงเพื่อต่อสู้กับโรคอุบัติใหม่ กำลังรอการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากประธานธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ในการทำข้อตกลงสั่งซื้อข่าวระดับรัฐต่อรัฐ ( จีทูจี ) ซึ่งในระหว่างนี้กระทรวงเกษตรได้เริ่มติดต่อกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกรอไว้แล้ว
ทั้งนี้ โนกราเลสกล่าวว่าฟิลิปปินส์ต้องการนำเข้าข้าวอีก 300,000 ตันในระยะนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศ ในช่วงที่ทุกฝ่ายกำลังต่อสู้กับวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ที่ในฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 1,500 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 78 คน และดูเตร์เตสั่ง “ล็อกดาวน์” กรุงมะนิลาเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม นายวิลเลียม ดาร์ รมว.กระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าปริมาณข้าวที่สำรองอยู่ในคลังยังเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศอีกประมาณ 4 เดือน อนึ่ง เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลฟิลิปปินส์ยกเลิกเพดานการนำเข้าข้าวที่จำกัดมานานกว่า 20 ปี เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนสามารถนำเข้าข้าวได้อย่างไม่จำกัด
ท่าทีดังกล่าวของฟิลิปปินส์เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของกลายฝ่าย ว่าความมั่นคงทางอาหารของโลกอาจสั่นคลอน จากการที่เวียดนามเพิ่มความเข้มงวดในการส่งออกข้าว และสำรองข้าวสำหรับการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ในช่วงวิกฤติโควิด-19 เช่นเดียวกับกัมพูชาที่ประกาศลดการส่งออกข้าว เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนในประเทศจะมีข้าวเพียงพอบริโภค ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาด.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, AP
CR: เดลินิวส์
