จันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563 เวลา 14.38 น. เดลินิวส์

สถิติผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐเพิ่มเป็นมากกว่า 140,000 คน และเสียขีวิตมากกว่า 2,400 คน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้เสียชีวิตในอเมริกาอาจถึง 100,000 คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ว่ามหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ในสหรัฐ ว่าผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 2,479 คน จากจำนวนผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 142,106 คน และมีผู้ได้รับการรักษาหายแล้ว 2,686 คน
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด เป็นหญิงอายุ 42 ปี จากรัฐอาร์คันซอ ไม่มีโรคประจำตัวและครอบครัวยืนยันว่าไม่เคยนอนพักที่โรงพยาบาลมาก่อน ล้มป่วยเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา “ด้วยอาการคล้ายหวัด” และตัดสินใจรักษาตัวเองที่บ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นโดยมีภาวะหายใจติดขัดและไอแห้งร่วมด้วย
เธอจึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และผลตรวจยืนยันเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ว่าเธอติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ต่อจากนั้นอาการของผู้ป่วยรายนี้ทรุดลง จนต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจ และเธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ตามเวลาท้องถิ่น หลังเข้ารับการรักษาตัวภายในห้องไอซียูได้เพียง 4 วัน
ขณะที่พื้นที่วิกฤติที่สุดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐยังคงเป็นรัฐนิวยอร์ก มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 59,648 คน และเสียชีวตแล้ว 965 คน นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่าจะขยายขอบเขตการตรวจให้กว้างขึ้นอีก โดยจะเริ่มมีการส่งเจ้าหน้าที่เคาะประตูตามบ้านเพื่อรวจคัดกรองให้ทั่วถึงที่สุดทุกครัวเรือน โดยตอนนี้จะมีการตรวจแอนติบอดีหรือสารภูมิต้านทานด้วย

โรงพยาบาลสนาม ที่เซ็นทรัลปาร์ค ในนครนิวยอร์ก
ด้านนพ.แอนโธนี เฟาซี อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐ ( เอ็นไอเอช ) กล่าวว่าหากทิศทางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐยังเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มเป็น 100,000 คน และผู้ติดเชื้อ “หลายล้านคน” แต่ไม่มีใครประสงค์ให้เป็นเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้ ขั้นตอนการตรวจ คัดกรอง และรักษา ต้องรวดเร็วและมีประสิทธิภาพควบคู่กันไป ตลอดจนการพัฒนายาและวัคซีน
ในอีกด้านหนึ่ง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ ( ซีดีซี ) เตือนประชาชนในรัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนตทิคัต งดการเดินทางที่ “ไม่จำเป็น” ภายในท้องที่ของตัวเอง ในช่วง 14 วันนับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา.
เครดิตภาพ : AP
CR: เดลินิวส์
