“จีน” เตรียมเล่นบทผู้นำโลก แก้ปัญหาโควิด-19 บน G-20

วันที่ 21 มีนาคม 2563 – 22:37 น. ประชาชาติธุรกิจ

FILE PHOTO: U.S. President Donald Trump and China’s President Xi Jinping shakes hands after making joint statements at the Great Hall of the People in Beijing, China, November 9, 2017. REUTERS/Damir Sagolj/File Photo

นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากเห็นตรงกันว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจโลก และอาจมากกว่าเมื่อครั้งวิกฤตการเงินปี 2008 ขณะที่วิกฤตทั้ง 2 หตุการณ์จะแตกต่างกันทั้งในเรื่องสาเหตุและผลกระทบที่เกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันคือภาพความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อร่วมกันฝ่าฟันปัญหา เพราะปัจจุบันทั่วโลกยังคงขาดความร่วมมือกันอย่างเห็นได้ชัดบนเวทีระหว่างประเทศ เพื่อตอบสนองต่อปัญหาไวรัสโควิด-19

โดย ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (ซีเอสไอเอส) ระบุว่า เมื่อครั้งวิกฤตการเงินปี 2008 ภายหลังวิกฤตดังกล่าวกลุ่มประเทศ “จี 20” สร้างพันธะว่าจะ “ร่วมกัน” อัดฉีดเม็ดเงินราว 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มผลผลิตโลก 4% ขณะที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ยังร่วมกันปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อีก 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ความร่วมมือในลักษณะนี้ยังไม่เกิดในวิกฤตโควิด-19 ถึงแม้จะมีความพยายามหาความร่วมมือเพื่อแก้ไขสถานการณ์ในเวที “จี 7” เมื่อ 16 มี.ค. 2020 แต่ผลการประชุมก็ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน

และการประชุม “จี 7” ที่ผ่านมา ยังถูกมองว่ามีความพยายามที่จะสกัดอิทธิพลของจีนออกไปจากบทบาทการแก้ไขปัญหาระดับโลกครั้งนี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ตั้งแต่ยุคสมัยของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” โดยเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า แถลงการณ์ผลการประชุมจี 7 กว่า 800 คำ ไม่มีการกล่าวถึง “ประเทศจีน” ถึงแม้ว่าจีนจะไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มจี 7 แต่ด้วยขนาดเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก ทำให้จีนจะมีบทบาทอย่างมากต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของแนวทางจัดการสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่ประสบความสำเร็จเป็นแบบอย่างแก่ทั่วโลก

นอกจากจีนจะสามารถจัดการกับสถานการณ์ภายในประเทศได้แล้ว ยังได้ให้ความช่วยเหลือทางสาธารณสุขแก่ประเทศต่าง ๆ เช่น อิตาลี สเปน และอิหร่าน ซึ่งรายงานของ ซีเอสไอเอส ระบุว่าบทบาทของจีนบนเวทีพหุภาคียังเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อจัดการกับการระบาดทั่วโลก และกระตุ้นเศรษฐกิจโลก

ขณะที่รอยเตอร์สรายงานอ้างแถลงการณ์จากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียในฐานะประธานกลุ่ม “จี 20” ซึ่งเรียกประชุมฉุกเฉินในสัปดาห์หน้า เพื่อหาความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศชั้นนำ 20 ประเทศของโลก โดยนักวิชาการจากปักกิ่งมองว่าการประชุมที่จะเกิดขึ้นเป็นเวทีระดับโลกครั้งแรกนับตั้งแต่การระบาดโควิด-19 เริ่มต้น ที่จีนจะสามารถแสดงบทผู้นำทั้งในเรื่องบริหารจัดการกับการระบาด และการกระตุ้นเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะยิ่งเป็นการชูบทบาทของจีนในฐานะมหาอำนาจโลกยิ่งขึ้นไปอีก

ขณะที่ “หวัง ฮุยเย่า” ประธานศูนย์จีนและโลกาภิวัตน์ (ซีซีจี) กล่าวว่า “การประชุมที่อาจเกิดขึ้นเป็นโอกาสที่ดีสำหรับจีนในการเพิ่มบทบาทผู้นำบนเวทีพหุภาคี และการยอมรับจากทั่วโลกมากขึ้น ด้วยการนำเสนอรูปแบบการบริหารจัดการซึ่งทั่วโลกสามารถนำไปใช้ได้” นอกจากนี้ประธานซีซีจียังเสนอให้ องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) จัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขที่กรุงปักกิ่ง เพื่อให้จีนแนะแนวทางจัดการกับไวรัสต่อประเทศสมาชิกดับเบิลยูเอชโอทั่วโลก

แม้ว่าบทบาทของจีนจะมีความสำคัญในการช่วยเหลือโลกจากวิกฤตไวรัสครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม โลกคงไม่อาจพึ่งพากำลังของจีนแต่เพียงผู้เดียว แต่ต้องพึ่งพาความร่วมมือระหว่าง “สหรัฐและจีน” ซึ่งเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 และ 2 ของโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ทั้งสองยังอยู่ระหว่างการทำสงครามการค้า ดังนั้นการลดกำแพงภาษีระหว่างกันจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจโลก เช่นที่เคยเกิดขึ้นหลังปี 2008 ซึ่งประเทศกลุ่ม “จี 20” สร้างพันธะร่วมกันว่าจะไม่เพิ่มกำแพงภาษีระหว่างกันเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากภาวะวิกฤต ทว่าสิ่งนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์”

CR: ประชาชาตืธุรกิจ