เสาร์ที่ 21 มีนาคม 2563 เวลา 08.24 น. เดลินิวส์
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกย้ำว่า ทุกคนสามารถติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ไม่ว่าจะมีอายุเท่าใดก็ตาม แม้ผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุมาก แต่คนหนุ่มสาวอย่าชะล่าใจว่าตัวเองนั้น “แข็งแกร่ง”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ว่า นพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ว่าแม้กลุ่มเสี่ยงที่สุดคือผู้สูงอายุ แต่เชื้อโรค “ไม่ปรานี” กลุ่มคนหนุ่มสาวเช่นกัน ประเมินจากข้อมูลที่หลายประเทศส่งเข้ามาว่า ผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 50 ปี “จำนวนมาก” ต้องสวมเครื่องช่วยหายใจ
นพ.เทดรอส 8oso6j,กล่าวต่อไปว่า ด้วยเหตุนี้เขาจึงขอเตือนเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของกลุ่มคนหนุ่มสาวทั่วโลกในตอนนี้ว่า ต่อให้คิดว่าตัวเองแข็งแรงแค่ไหน แต่หากล้มป่วยด้วยโรคโควิด-19 แล้ว เชื้อโรคสามารถทำให้ผู้ป่วยที่แม้อายุน้อย ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล “นานหลายสัปดาห์” หรืออาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิต การใช้ชีวิตนอกเคหะสถานตอนนี้ขอให้เพิ่มการพิจารณาอย่างถ้วยถี่ เนื่องจากการตัดสินใเดินทางไปสถานที่แห่งใด อาจกลายเป็นการทำให้ชีวิตของใครบางคนตกอยู่ในสภาพ “ระหว่างความเป็นกับความตาย”
เกี่ยวกับประเด็นเครื่องมือแพทย์ที่ทั่วโลกกำลังขาดแคลนอย่างหนัก นพ.เทรดรอสกล่าวว่าดับเบิลยูเอชโอจัดส่งขุดตรวจมากกว่า 1.5 ล้านชุด กระจายไปให้หลายประเทศที่ติดต่อขอรับแล้ว แต่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ความต้องการใช้ชุดตรวจสูงกว่าปกติถึง 80 เท่า ซึ่งดับเบิลยูเอชโอประสานงานกับจีน ให้ช่วยผลิตอุปกรณ์การแพทย์โดยเฉพาะชุดตรวจโควิด-19 หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันและเครื่องช่วยหายใจ แล้วส่งไปยังโกดังของดับเบิลยูเอชโอ ที่เมืองดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี )
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอกล่าวถึงสมมติฐานว่า การใช้ยาต้านการอักเสบ อาทิ ไอบูโพรเฟน ในผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาจกระตุ้นการทำงานของ “เอนไซม์ชนิดหนึ่ง” ในร่างกาย จนทำให้อาการป่วยแย่ลง ว่ายังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าการใช้ยาดังกล่าวก่อให้เกิด “ผลเสีย” กับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นอกจาก “ผลข้างเคียงปกติของตัวยา” แต่กำลังมีการปรึกษาหารืออย่างละเอียดกับแพทยทั่วโลก ในการใช้ยาลดไข้ให้กับผู้ป่วยโรคโควิด-19
ทั้งนี้ นพ.เทดรอสยืนยันว่าแม้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำให้โลกตกอยูในภาวะ “โรคระบาดครั้งใหญ่” แต่ใช่ว่ามนุษย์จะไม่สามารถเอาชนะสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่านี้ได้ โดยผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอยกตัวอย่างสถานการณ์ในจีนซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ จนไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับทั่วโลกให้ประสบความสำเร็จในการกอบกู้สถานการณ์ แม้อยู่ในภาวะเลวร้ายที่สุด.
เครดิตภาพ : REUTERS
CR: เดลินิวส์
apecthai.com 