อังคารที่ 10 มีนาคม 2563 เวลา 09.16 น. เดลินิวส์

ซาอุดีอาระเบียประกาศบทลงโทษด้วยการปรับเงินสูงสุด 500,000 ริยัล หรือประมาณ 4 ล้านบาท ต่อบุคคลใดก็ตามซึ่งเจตนาให้ข้อมูลเท็จ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ในการควบคุมสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ว่ากระทรวงสาธารณสุขของซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ในประเทศ ว่าผู้ป่วยสะสมมีจำนวนอย่างน้อย 15 คน และทุกคนยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

ขณะเดียวกัน รัฐบาลริยาดประกาศบทลงโทษที่เป็นการปรับเงินสูงสุด 500,000 ริยัล ( ราว 4.18 ล้านบาท ) กับบุคคลใดก็ตามซึ่งเจตนาปกปิด บิดเบือน หรือให้ข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงาน เกี่ยวกับสุขภาพของตัวเอง และข้อมูลการเดินทางทั้งในและต่างประเทศในรอบ 14 วันล่าสุด ซึ่งเปฌนพฤติกรรมที่จะส่งผลเสียต่อการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

#SaudiArabia will impose a fine of up to 500,000 Riyals on those who do not disclose the correct health-related information at the country's entry points. #COVID_19https://t.co/hFSRTNCVO3 pic.twitter.com/6ghvoDSS4V

— Al Arabiya English (@AlArabiya_Eng) March 9, 2020

ด้านสำนักข่าวแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียรายงานเพิ่มเติมว่า สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 314 ล้านบาท ) ให้แก่องค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) เพื่อใช้เป็นทุนเพิ่มเติมในภารกิจต่อสู่กับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ขณะที่มาตรการอื่นที่รัฐบาลริยาดบังคับใช้เพื่อควบคุมโรค รวมถึงการปิดศาสนสถานในเมืองเมกกะและเมืองเมดินาเป็นการชั่วคราว การปิดเมืองกาทีฟที่อยู่ในภาคตะวันออก เนื่องจากพบผู้ป่วยมากที่สุด และการระงับผ่านแดนทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ต่อพลเมืองจาก 14 ประเทศ ได้แก่ บาห์เรน อียิปต์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิรัก อิตาลี คูเวต เลบานอน โอมาน สเปน เกาหลีใต้ ซีเรีย ตุรกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ).

เครดิตภาพ : REUTERS

CR: เดลินิวส์