อังคารที่ 3 มีนาคม 2563 เวลา 16.00 น. เดลินิวส์

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเกาหลีใต้เพิ่มเป็นมากกว่า 5,000 คน และเสียชีวิตแล้ว 34 คน ด้านรัฐบาลประกาศตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี ( เคซีดีซี ) ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ของวันอังคาร ว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ในประเทศ เพิ่มจาก 4,812 คนเมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน เป็นอย่างน้อย 5,186 คน หมายความว่าในระหว่างวันมีการตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 374 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 34 คน ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว
อนึ่ง เกาหลีใต้ยืนยันการพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 คนแรกในประเทศ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นหญิงชาวจีน เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในจีน
ทั้งนี้ 56.1% ของผู้ป่วยสะสมทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับโบสถ์ของลัทธิชินขอนจิ ที่เมืองแทกู เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ ตั้งอยู่ในภาคตะวันออก โดยโบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่ง “ผู้ป่วยคนที่ 31” เป็นหญิงอายุ 61 ปี มีอาการต้องสงสัยป่วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. แต่เธอหลบเลี่ยงเข้ารับการตรวจโรค ซึ่งนานถึง 1 สัปดาห์กว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถนำตัวหญิงคนดังกล่าวไปตรวจได้ และผลยืนยันว่าติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เธอยังมาเข้าร่วมกิจกรรมที่โบสถ์แห่งนี้อีกอย่างน้อย 4 ครั้ง ส่งผลให้เกิดภาวะ “ซูเปอร์สเปรเดอร์” คือพาหะที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง
ด้านประธานาธิบดีมุน แจ-อิน สั่งเพิ่มการผลิตหน้ากากอนามัยจาก 10 ล้านชิ้นต่อวัน เป็น 13 ล้านชิ้น และประกาศการตั้ง “วอร์รูม” เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และส่งชุดตรวจโรคเพิ่มเติมไปยังเมืองแทกูเป็นการด่วนที่สุด และก่อสร้างโรงพยาบาลสนามเพิ่มอีก หลังเทศบาลเมืองแทกูเผยว่า จากจำนวนผู้ป่วยมากกว่า 3,600 คนในท้องที่นั้น มีประมาณ 2,300 คนเกี่ยวข้องกับลัทธิชินชอนจิ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองประชาชนทั่วไปซึ่งมีอาการต้องสงสัยแล้ว 11,000 คน พบการติดเชื้อในประชาชน 1,300 คน.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
CR: เดลินิวส์
