อาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2563 เวลา 12.12 น. เดลินิวส์

นายมูห์ยิดดิน ยาสซิน กราบบังคมทูลถวายคำสัตย์ปฏิญาณต่อสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงตึงเครียด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ว่าสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์แห่งมาเลเซีย พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายมูห์ยิดดิน ยาสซิน เข้าเฝ้าฯเพื่อกราบบังคมทูลถวายคำสัตย์ปฏิญาณ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันอาทิตย์

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางไปยังพระบรมมหาราชวัง ผู้นำมาเลเซียวัย 72 ปี ซึ่งมีตำแหน่งทางการเมืองล่าสุดคือรมว.กระทรวงมหาดไทยในสมัยรัฐบาลชุดที่ 2 ของดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวขอให้ชาวมาเลเซีย “ให้การยอมรับ” ในตัวเขา อย่างไรก็ตาม มหาเธร์ วัย 94 ปี ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับทุกฝ่ายด้วยการตัดสินใจลาออกเมื่อปลายเดือนที่แล้ว แถลงในเวลาเดียวกัน ยืนยันเตรียมยื่นเรื่องต่อสภา ขอให้มีการประชุมวาระพิเศษ เพื่อพิจารณาว่ามูห์ยิดดิน “มีเสียงสนับสนุนเพียงพอจริงหรือไม่” โดยอดีตผู้นำ 2 สมัยวัย 94 ปี ยืนยันว่าตัวเองมีเสียงสนับสนุน “เพียงพอ” คือ 114 จากทั้งหมด 222 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร
Astro Awani
ด้านนายอันวาร์ อิบราฮิม หัวหน้าพรรความยุติธรรมปวงชน ( พีเคอาร์ ) ซึ่งสนับสนุนมหาเธร์ ยังไม่แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการต่อการขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศของมูห์ยิดดิน ที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ ( อัมโน ) ขณะที่เริ่มเกิดกระแสบนโลกออนไลน์ในมาเลเซียด้วยแฮชแท็ก #NotMyPM และชาวมาเลเซียมากกว่า 100,000 คนร่วมลงชื่อในฎีกา เรียกร้องว่าการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของมูห์ยิดดินคือการ “ทรยศเสียงของประชาชน” จากการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค. 2561 ที่พรรคอัมโน “แพ้หลุดลุ่ย”
ส่วนพรรคอัมโนยังไม่แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายว่าความเปลี่ยนแปลทางการเมืองครั้งนี้ จะเป็นการ “กลับคืนสังเวียน” ของพรรคอัมโน และอาจมีผลต่อการพิจารณาคดีคอร์รัปชั่นหลายสิบข้อหาของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ซึ่งเกี่ยวกับการทุจริตในกองทุนพัฒนาแห่งชาติ “วันเอ็มดีบี”.
เครดิตภาพ : AP
CR: เดลินิวส์
