พุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 08.34 น. เดลินิวส์

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นมากกว่า 1,000 คน และเสียชีวิตแล้ว ด้านประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ลงพื้นที่เมืองแทกู ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี ) รายงานสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ในเกาหลีใต้ ยืนยันพบผู้ป่วยรายใหม่อีก 169 คน เพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเป็นอย่างน้อย 1,146 คน นับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 11 คน หนึ่งในนั้นเป็นพลเมืองมองโกเลีย อายุ 36 ปี
ทั้งนี้ รายงานของเคซีดีซีระบุด้วยว่า เมืองใหญ่ “แทบทุกแห่ง” ในเกาหลีใต้พบผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม “พื้นที่วิกฤติ” หรือศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ ยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลแดนัม ในเมืองช็องโด และโบสถ์ของลัทธิชินชอนจิ ในเมืองแทกู เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ โดยโบสถ์แห่งดังกล่าวเป็นสถานที่ซึ่ง “ผู้ป่วยคนที่ 31” เป็นหญิงอายุ 61 ปี เคยมาร่วมกิจกรรมอย่างน้อย 4 ครั้ง แต่เธอไม่มีประวัติเดินทางไปยังต่างประเทศในระยะนี้
อนึ่ง เมืองทั้งสองแห่งตั้งอยู่ทางตะวันออก และรัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ให้ทั้งสองเมืองอยู่ภายใต้คำสั่ง “พื้นที่บริหารจัดการพิเศษด้านสาธารณสุข” และยกระดับการเตือนภัยด้านสาธารณสุขในประเทศเป็น “สีแดง” ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ขณะที่เคซีดีซีเตรียมตรวจโรคสมาชิกลัทธิชินชอนจิทั่วประเทศ ซึ่งตามรายงานมีจำนวนมากถึง 215,000 คน
ด้านประธานาธิบดีมุน แจ-อิน พร้อมนายกรัฐมนตรี ชอง ซเย-คยอง ลงพื้นที่เมืองแทกู เมื่อวันอังคาร เพื่อให้กำลังใจบุคลากรการแพทย์ และหารือกับเทศบาลท้องถิ่น เกี่ยวกับความช่วยเหลือจากส่วนกลางในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยประกาศเป้าหมายต้องยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคให้ได้ “ภายใน 4 สัปดาห์”.
เครดิตภาพ : REUTERS
CR: เดลินิวส์
