อาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 14.40 น. เดลินิวส์

นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ขอให้ชาวสิงคโปร์ “อย่าตื่นตระหนก” หลังรัฐบาลยกระดับการเตือนภัยเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ในประเทศมีผู้ป่วยสะสมแล้ว 40 คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ว่าสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของสิงคโปร์ออกอากาศ คลิปการแถลงของนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่จำนวนผู้ป่วยสะสมในสิงคโปร์เพิ่มเป็นอย่างน้อย 40 คน และรัฐบาลยกระดับการเตือนภัยด้านสาธารณสุขเป็น “สีส้ม” ซึ่งเป็นขั้นรองจากสูงสุดคือ “สีแดง” และเป็นระดับเดียวกับที่ใช้เตือนภัยในช่วงการแพร่ระบาดของกลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์ส ซึ่งแพร่ระบาดระหว่างปลายปี 2546 ถึงกลางปี 2546 และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอช1 เอ็น1 เมื่อปี 2552 ว่า “บททดสอบแท้จริง” ของชาวสิงคโปร์ในช่วงนี้ คือความสามัคคีและความยืดหยุ่นทางจิตใจ
แม้ผู้นำสิงคโปร์ยืนยันว่า จำนวนเคสการติดเชื้อ “แทบทั้งหมด” ที่เกิดขึ้นในประเทศ “มาจากภายนอก” หรือแม้เป็นเคสใหม่แต่มีความเชื่อมโยงกับเคสเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ต้นเหตุการณ์รับเชื้อโรคของผู้ป่วยอีกหลายคน “ยังตรวจสอบไม่พบ” ซึ่งสร้างความกังวลให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากหมายความว่าเชื้อโรคกำลังปะปนอยู่ระหว่างชาวสิงคโปร์ด้วยกันเอง

ทั้งนี้ ลีกล่าวว่า “ไม่มีความจำเป็น” ที่ประชาชน “ต้องตื่นตระหนก” กับการยกระดับคำเตือนของภาครัฐ ที่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้าน วิถีชีวิตในสิงคโปร์ยังดำเนินไปตามปกติ จึงไม่มีความจำเป็นเช่นกันที่จะต้องกักตุนสิ่งของอุปโภคบริโภคซึ่ง “มีเหลือเฟือ” สำหรับทุกคน อย่างไรก็ตาม หากเชื้อโรค “มีพัฒนาการ” มาตรการที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลต้องเปลี่ยนแปลงตาม สถานการณ์นั้นเป็นการประเมินที่รัฐบาลต้องวิเคราะห์ล่วงหน้า แต่ตอนนี้สิงคโปร์ไม่ได้อยู่ในจุดนั้น การรักษาสุขภาพและการรับมืออย่างมีสติเป็นสิ่งเหมาะสมที่สุด.
เครดิตภาพ : AFP
CR: เดลินิวส์
