เสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562 เวลา 07.59 น. เดลินิวส์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเขา “ยังไม่ได้ตอบรับ” กับการที่สหรัฐจะลดกำแพงภาษีให้กับสินค้าจีน “แบบเป็นลำดับขั้น” ตามความคืบหน้าของการเจรจากับอีกฝ่าย สื่อว่าสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มผ่อนคลาย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ หลังรัฐบาลปักกิ่งเปิดเผยว่าคณะผู้แทนเจรจาของจีนและสหรัฐ “เห็นชอบร่วมกันในหลักการ” เพื่อบรรลุข้อตกลงการค้า “เฟสแรก” ด้วยการลดกำแพงภาษีซึ่งใช้ตอบโต้กันมาตลอด “แบบเป็นขั้นบันได” และมาตรการขั้นต่อไปขึ้นอยู่กับ “ความคืบหน้า” ของการเจรจาการค้า ว่าเขายังไม่ได้อนุมัติเรื่องดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น “มิสเตอร์กำแพงภาษี” กล่าวว่าในความเป็นจริงจีนไม่ได้ต้องการให้กำแพงภาษี “ถูกยกเลิกอย่างสมบูรณ์” แต่ต้องการให้มีการ “ลดหย่อนเพียงบางส่วน” เท่านั้น บ่งชี้ว่ารัฐบาลปักกิ่งซึ่งทราบดีอยู่แล้วว่าเขาไม่มีทางเห็นด้วย ต้องเป็นฝ่ายต้องพยายามในเรื่องนี้มากกว่า และยืนยันว่ากำแพงภาษีที่บังคับใช้กับจีนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สามารถ “เรียกคืนเงินมหาศาล” กลับเข้าประเทศ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังคงเชื่อมั่นว่าการเจรจา “ข้อตกลงเฟสแรก” จะประสบความสำเร็จและมีการลงนามร่วมกันระหว่างเขากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งผู้นำสหรัฐยืนกรานว่าด้วยว่า การลงนามต้องการเกิดขึ้นบนแผ่นดินอเมริกา และเขาเสนอให้เป็นรัฐไอโอวา ที่เป็นหนึ่งใน “สวิงสเตท” ของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมีขึ้นปีหน้า แต่จีนยังไม่แสดงท่าทีในเรื่องสถานที่ลงนาม
อนึ่ง แม้การเปิดเผยของกกระทรวงพาณิชย์จีนยังไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจนของมาตรการลดกำแพงภาษี “แบบขั้นบันได” แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าหากการเจรจาการค้าเฟสแรกได้ผลเป็นที่น่าพอใจสำหรับทั้งสหรัฐและจีน จนมีการลงนามร่วมกันภายในปีนี้ มาตรการดังกล่าวน่าจะรวมถึงแผนการของรัฐบาลวอชิงตันในการขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 156,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.73 ล้านล้านบาท ) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ขณะเดียวกัน รัฐบาลปักกิ่งยังต้องการให้อีกฝ่ายยกเลิกกำแพงภาษีอัตรา 15% ต่อสินค้าจีน 125,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.79 ล้านล้านบาท ) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่วนรัฐบาลวอชิงตันต้องการให้จีนเพิ่มมูลค่าการซื้อสินค้าเกษตรจากอเมริกาเป็นสูงสุด 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.52 ล้านล้านบาท ).
เครดิตภาพ : REUTERS, AFP
CR: เดลินิวส์
