จันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562 เวลา 07.44 น. เดลินิวส์

สหราชอาณาจักร รัสเซียในฐานะผู้นำสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย และนิวซีแลนด์ แสดงความมุ่งมั่นในการแสวงหาโอกาสเพิ่มความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับอาเซียน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่าเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก พระราชโอรสในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร กับเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ เสด็จฯร่วมงานประชุมสุดยอดธุรกิจและการลงทุนอาเซียน ( เอบิส ) เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการประชุมคู่ขนานรายการสำคัญของการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( ASEAN ) ครั้งที่ 35 ซึ่งไทยเป็นประธานในปีนี้ โดยทรงมีพระดำรัสในตอนหนึ่งว่าสหราชอาณาจักรไม่สามารถ “ใช้กลยุทธ์ดั้งเดิมตามแบบของตัวเอง” ในการดำเนินธุรกิจได้อีกต่อไป เนื่องจากสหราชอาณาจักรต้องออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ( EU ) ตามผลการลงประชามติเมื่อเดือนมิ.ย. 2559
ทั้งนี้ ดยุกแห่งยอร์กทรงมองเบร็กซิตเป็นการกดดันโดยปริยายให้สหราชอาณาจักรต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการเชื่อมต่อทางธุรกิจและการลงทุนกับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่อยู่นอกยุโรป สหราชอาณาจักรจึงให้ความสำคัญกับการประชุมเอบิสครั้งนี้ ขณะเดียวกัน พระองค์ทรงใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์โครงการ ” พิตช์แอตพาเลซ” ( Pitch@Palace ) ซึ่งพระองค์ทรงก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 เพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพด้วย
นอกเหนือจากดยุกแห่งยอร์ก นายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย ขึ้นเวทีเอบิสในวันเดียวกัน โดยนายกรัฐมนตรีรัสเซียกล่าวว่า สหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย ( EAEU ) ที่ประกอบด้วยเบลารุส อาร์มีเนีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน และรัสเซีย มุ่งหวังขยายกรอบความร่วมมือกับอาเซียนทั้งแบบกลุ่มและเป็นรายประเทศ หลังลงนามข้อตกลงการค้าเสรี ( FTA ) กับเวียดนาม เมื่อปี 2558 และกับสิงคโปร์ เมื่อปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน เมดเวเดฟเรียกร้องอาเซียนผนึกกำลังร่วมมือกันต่อต้านการผูกขาดทางการค้าของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งจากตะวันตก
ด้านนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ผู้นำนิวซีแลนด์ กล่าวบนเวทีเอบิส เกี่ยวกับการเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอระหว่างอาเซียนกับนิวซีแลนด์รอบใหม่ในปีหน้า หลังเริ่มการหารือรอบแรกเมื่อปี 2553 ขณะเดียวกัน รัฐบาลนอวซีแลนด์ต้องการยกระกับความร่วมมือกับอาเซียนทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนและแบ่งปันด้านการศึกษา และเทคโนโลยีการเกษตรด้วย.
เครดิตภาพ : AP, REUTERS
CR: เดลินิวส์
