อาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.34 น. เดลินิวส์
นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เรียกร้องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มการบูรณาการทางการเศรษฐกิจร่วมกัน ซึ่งจะยกระดับความเป็นเอกภาพของภูมิภาคในการเผชิญหน้าและฝ่าฟันกับความท้าทายจากภายนอก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ว่านายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ผู้นำสิงคโปร์ กล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดครั้งที่ 35 ของผู้นำ 10 ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) แบบเต็มคณะ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีสาระสำคัญในตอนหนึ่งว่า อาเซียนรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC ) เมื่อปี 2558 แต่นับจากนั้นแทบไม่มีความคืบหน้า ตอนนี้สมาชิกต้องเพิ่มความจริงจังเพื่อการร่วมกันบรรลุเป้าหมาย “พิมพ์เขียวเศรษฐกิจอาเซียน” ที่มีการกำหนดไว้ในปี 2568
ขณะเดียวกัน อาเซียนควรขยายกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศนอกภูมิภาคให้กว้างออกไปอีก และยกระดับเสรีการค้ากับประเทศคู่ค้าทั้งที่มีความสัมพันธ์กันอยู่ในปัจจุบัน และคู่เจรจา “หน้าใหม่” ที่จะตามมาในอนาคต อย่างไรก็ตาม บรรยากาศของการประชุมเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ( RCEP ) ว่าจะมี “ผลลัพธ์ที่สร้างสรรค์และเป็นรูปธรรม” หรือไม่ เนื่องจากทิศทางของอาร์เซ็ปในตอนนี้ขึ้นอยู่กับอินเดียเท่านั้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ยังกล่าวถึงศักยภาพ “เฉพาะตัว” ของสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศในด้านการเข้าครอบครองทางเศรษฐกิจ แต่ภาวะชะลอตัวและความแปรปรวนของเศรษฐกิจโลกโดยรวม ซึ่งรวมถึงการที่เศรษฐกิจของสหรัฐมีแนวโน้มประสบกับภาวะชะลอตัวมากขึ้น บีบคั้นให้อาเซียนต้องเพิ่มความร่วมมือและการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาค เพื่อเผชิญกับความท้าทาย และการฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นด้วยความเป็นเอกภาพ ซึ่งในส่วนของสิงคโปร์ยังคงมีความเชื่อมั่นในเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน ( ASCN ) ว่าจะประมีระสิทธิภาพเพียงพอในการเป็นตัวกลางประสานความร่วมมือภายในภูมิภาคได้.
เครดิตภาพ : REUTERS, AP
CR: เดลินิวส์
apecthai.com 