ประชุมยูเอ็นเอสซีเรื่องแคชเมียร์ไร้ข้อสรุป

เสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2562 เวลา 08.50 น. เดลินิวส์

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดครั้งใหม่ในแคชเมียร์ โดยทำได้เพียงเตือนอินเดียและปากีสถาน “อย่าใช้อำนาจตามอำเภอใจ” หลังรัฐบาลนิวเดลียกเลิกสถานะปกครองตนเองของรัฐชัมมูและกัศมีร์ พร้อมทั้งย้ำว่า “เป็นเรื่องภายใน”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ประชุมเมื่อวันศุกร์ แต่ครั้งนี้เป็นการหารือภายในที่ไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ารับฟัง เกี่ยวกับ “ญัตติฉุกเฉิน” เสนอโดยปากีสถานและจีนซึ่งเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซี ว่าด้วย “การใช้อำนาจตามอำเภอใจ” ของอินเดียในการยกเลิกสถานะพิเศษที่รวมถึงอำนาจในการปกครองตนเองของรัฐชัมมูและกัศมีร์ ที่เป็นภูมิภาคแคชเมียร์ฝั่งอินเดีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา และมีแผนเตรียมแบ่งพื้นที่ออกเป็น “2 รัฐใหม่” ในอนาคต

แม้ที่ประชุมไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมกันได้ เนื่องจากระเบียบของการประชุมระบุชัดว่าต้องเป็น “ฉันทามติ” ของสมาชิกยูเอ็นเอสซีทั้ง 15 ประเทศและคู่กรณีที่เกี่ยวข้องกับญัตติ ซึ่งกรณีนี้คืออินเดียและปากีสถาน ที่ต่างประกาศอ้างกรรมสิทธิ์เหนือ “ดินแดนทั้งหมด” ในแคชเมียร์ และมีรายงานว่าจีนคัดค้านการใช้ถ้อยคำบางคำ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นพ้องว่าอินเดียและปากีสถานควรหลีกเลี่ยง “การใช้อำนาจฝ่ายเดียว” ต่อพื้นที่พิพาทแห่งนี้

ขณะที่นายไซอิด อักบารุดดิน เอกอัครราชทูตอินเดียประจำยูเอ็น กล่าวว่าความเคลื่อนไหวทั้งหมดของรัฐบาลนิวเดลี นับตั้งแต่การยกเลิกมาตรา 370 ของรัฐธรรมนูญ และการประกาศเคอร์ฟิวในรัฐชัมมูและกัศมีร์ ล้วนแล้วแต่ “เป็นกิจการภายในทั้งสิ้น” เนื่องกจาเกิดขึ้นภายในดินแดนแคชเมียร์ซึ่งอยู่ภายใต้อธิปไตยของรัฐบาลนิวเดลี  และตอนนี้อินเดียผ่อนคลายเคอร์ฟิวและมาตรเข้มงวดหลายข้ออย่างต่อเนื่อง โดยสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตเริ่มกลับมาใช้งานได้แล้ว อย่างไรก็ตาม อักบารุดดินปฏิเสธมติของยูเอ็นเอสซีเมื่อปี 2491 เกี่ยวกับการลงประชามติในแคชเมียร์ แต่ยืนยันอินเดียไม่เคยละเมิดข้อตกลงซิมลา เมื่อปี 2515 ที่เป็นการกำหนด “แนวเส้นควบคุม” ( แอลโอซี ) ในแคชเมียร์กับปากีสถาน แต่มีรายงานทหารของทั้งสองประเทศยิงตอบโต้กับข้ามแอลโอซี ทหารปากีสถานเสียชีวิต 3 นายและทหารอินเดียเสียชีวิต 5 นาย

ด้านกระทรวงการต่างประเทศปากีสถานออกแถลงการณ์เพียงว่า จะได้รับความสนับสนุนเรื่องแคชเมียร์จากสหรัฐ หลังการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับนายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ผู้นำปากีสถาน.

เครดิตภาพ : AP

CR:เดลินิวส์