เกาหลีใต้เรียกร้องญี่ปุ่นเลิกคุมเข้มส่งออกสินค้าไฮเทค

อังคารที่ 9 กรกฎาคม 2562 เวลา 08.18 น.

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เรียกร้องญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการส่งออกวัตถุดิบสำหรับผลิตสินค้าด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผลจากข้อพิพาทยืดเยื้อเรื่องแรงงานทาสในสมัยสงคราม ด้านรัฐบาลโตเกียวยังคงยืนกรานปฏิเสธ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ว่านายฮิโรชิเงะ เซโกะ รมว.กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น แถลงเมื่ออังคาร ว่ารัฐบาลโตเกียว “ไม่มีนโยบาย” ยกระดับมาตรการเข้มงวดในการส่งออกเคมีภัณฑ์หลายชนิด และวัตถุดิบทันสมัยที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่รวมถึงชิป และหน้าจอสมาร์ทโฟนไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา  พร้อมทั้งยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวไม่เป็นการละเมิดกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก ( WTO )  เนื่องจากไม่ใช่การระงับค้าขายอย่างเด็ดขาด เพียงแต่มีขั้นตอนเพิ่มขึ้นให้ผู้ประกอบการของญี่ปุ่นซึ่งต้องการส่งออก “สินค้าควบคุม” ไปยังเกาหลีใต้ ต้องทำเรื่องขอใบอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐก่อนเท่านั้น แม้อาจต้องใช้เวลาเดินเรื่องนานถึง 90 วันก็ตาม

ท่าทีดังกล่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อวันจันทร์ เรียกร้องญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับการผลิตชิป และหน้าจอสมาร์ทโฟน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสายงานการผลิตสินค้าเหล่านั้นของบริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็นซัมซุง แอลจี เอสเค และไฮนิกซ์ แม้ญี่ปุ่นยืนยันว่ามาตรการของตัวเองไม่ผิดกฎการค้าระหว่างประเทศ แต่ผู้นำเกาหลีใต้ยืนยันจะยื่นเรื่องต่อดับเบิลยูทีโอ

ทั้งนี้ ชนวนเหตุของข้อพิพาทดังกล่าวยังคงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเมื่อศาลฎีกาในกรุงโซลมีคำพิพากษาเมื่อปลายเดือนต.ค. ปีที่แล้ว  ให้บริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่น จ่ายค่าชดเชยให้แก่แรงงานทาส ซึ่งรัฐบาลโตเกียวยังคงประท้วงอย่างหนักจนถึงปัจจุบัน และย้ำว่าญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ลงนามยุติกรณีพิพาทเรื่องนิปปอน สตีล ตั้งแต่ปี 2508 แล้ว ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ทั้งสองประเทศลงนามข้อตกลงฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน และวิจารณ์ว่าเกาหลีใต้เองก็ยังไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาแรงงานทาสให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล.

แหล่งที่มา : เดลินิวส์