สหรัฐฯ เตรียมเปิดการเจรจาทางการค้ากับจีนในสัปดาห์หน้า

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 4 ก.ค. 62 9:52: น.

CR:Photo-https://www.ft.com/content/36b03e90-04a6-11e9-99df-6183d3002ee1

  สำนักข่าว CNBC รายงานว่า แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เผยว่าการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน จะเริ่มทำการเจรจากันต่อในสัปดาห์หน้า หลังจากที่การหารือนอกรอบของประธานาธิบดี โดนัลล์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

  สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา รายงานว่า การเจรจาที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าจะยังคงเป็นการเจรจาทางโทรศัพท์ เหมือนกับครั้งที่แล้ว ซึ่งทีมเจรจาสหรัฐจะประกอบด้วย โรเบิร์ต ลิธเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และ สตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ขณะที่ ทางฝั่งจีนนั้นจะนำโดยรองประธานาธิบดี หลิว เหอ และทีมงาน

  ก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศได้มีการเจรจากันทางโทรศัพท์มาแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่ผู้นำทั้งสองประเทศจะพบกันเพื่อหารือนอกรอบและตกลงที่จะเจรจาต่อเนื่องจากเดือนพฤษภาคม ขณะที่การเจรจาแบบเผชิญหน้าจะถูกกำหนดขึ้นหลังการประชุมครั้งนี้ ซึ่งในส่วนของการประชุมที่ต่อเนื่องจากเดือนพฤษภาคมนั้นคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในการประชุมครั้งนี้

  ”เราหวังว่าการเจรจาจะผ่อนคลายขึ้น และเราไม่มีการเพิ่มอัตราภาษีในช่วงระหว่างการเจรจา และหวังว่าทางจีนจะจบการเจรจานี้ด้วยการสั่งซื้อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯมากขึ้น ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวกล่าวทิ้งท้าย

  สำหรับความขัดแย้งล่าสุดที่ทำให้การประชุมเมื่อเดือนพฤษภาคมประสบความล้มเหลวมาจากการที่สหรัฐฯกล่าวหาทางจีนว่าขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากสหรัฐฯ และบังคับให้บริษัทของสหรัฐฯ แบ่งปันเทคโนโลยีให้กับทางจีนหากต้องการร่วมทำธุรกิจ โดยสหรัฐฯต้องการให้มีการแก้ไขกฎหมายทางการค้า ซึ่งทางจีนได้ปฎิเสธเงื่อนไขดังกล่าวจนทำให้สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจาก 10% เป็น 25% และสั่งแบนบริษัทหัวเว่ย ห้ามทำการค้ากับบริษัทของสหรัฐฯ ขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 25% เช่นเดียวกัน ก่อนที่ผู้นำทั้งสองประเทศจะตกลงระงับการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้ารอบใหม่ และเปิดการเจรจาทางการค้าอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

รายงาน    ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ 

อนุมัติ     พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน 

แหล่งที่มา : https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=cXpwUEUxU09hTmM9